“มวยไทย” เป็นศิลปะการป้องตัวของประเทศไทย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ มีความโดดเด่นทางด้านการต่อสู้โดยใช้ร่างกาย หมัด เท้า เข่า ศอก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่มีนักมวยไทยบางคนที่เปลี่ยนตัวเองไปเป็นนักมวยสากลอาชีพและสามารถครองแชมป์โลกได้เลยทีเดียว วันนี้เราจะพามารู้จักกับ 3 นักมวยในตำนานของไทยที่ยังอยู่ในใจคนไทยตลอดกาล
- สามารถ พยัคฆ์อรุณ
“สามารถ พยัคฆ์อรุณ” มีชื่อจริงว่า สามารถ ภพธีรธรรม เกิดที่จังหวัด ฉะเชิงเทรา ตลอดอาชีพนักมวยของ สามารถ ได้แชมป์มาอย่างมากมาย เริ่มตั้งแต่ แชมป์มวยไทย ที่เวทีมวย ลุมพินี ถึง 4 รุ่น แชมป์โลกซูเปอร์แบนตั้มเวท เป็นคนที่ 10 ของประเทศไทย ครั้งหนึ่ง สามารถ ได้ถูกสภามวยโลก ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการล้มมวย เพราะผลมวยที่สามารถได้ขึ้นป้องกันแชมป์ในไฟต์นั้น สามารถแพ้อย่างหมดสภาพ แล้วต้องเสียแชมป์ไป สามารถจึงไปบวช หลังจากที่อิ่มบุญ สามารถได้กับมาชก แต่ฟอร์มไม่ดีเหมือนแต่ก่อนจึงตัดสิ้นใจ แขวนนวมและจบอาชีพนักมวยไว้เพียงเท่านั้น สามารถขึ้นชกมาทั้งหมด 23 ไฟต์ (เฉพาะมวยสากล) ชนะ 21 ไฟต์ ชนะน็อก 12 ไฟต์ แพ้ 2 ไฟต์
- ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน
ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์” มีชื่อจริงว่า ชรินทร์ สอนดี เจ้าของฉายา “ขุนเข่าเสาโทรเลข” ดีเซลน้อยเป็นนักมวยรูปร่างสูงโปร่ง มีช่วงชกยาวทั้งแขนและขา และมีอาวุธอันตรายคือเข่า จนได้รับฉายาว่า “ขุนเข่าเสาโทรเลข” หรือ “ขุนเข่าทะลายฟ้า” จากสื่อมวลชน ครั้งนึงของยุค เมื่อ “ดีเซลน้อย”ได้โคจรมาพบกับ”พยัคญ์หน้าหยก” สามารถ พยัคฆ์อรุณ ซึ่งเป็นคู่มวยที่มีการวางเดิมพันมวยที่เยอะที่สุดของวงการมวยไทยในยุคนั้น ดีเซลน้อยเมื่อเอาชนะสามารถ พยัคฆ์อรุณได้ ดีเซลน้อยเริ่มหาคู่ชกยาก เพราะปราบนักมวยรุ่นเดียวกันจนหมด จนว่ากันว่า ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน เป็นนักมวยไทยที่ไร้เทียมทานที่สุดในประเทศ
- อภิเดช ศิษย์หิรัญ
“อภิเดช ศิษย์หิรัญ” มีชื่อจริงว่า ณรงค์ ทรงมณี ป็นนักมวยไทยคนเดียวที่มีลูกเตะเป็นอาวุธสำคัญสามารถชงเท้าเข้าก้านคอคู่ต่อสู้แล้วไล่ลงมาถึงขาพับ 3 จังหวะด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะแข้งขวา จนได้รับฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก”